ส่วนหัวแบบฟอร์มล็อคอิน

ส่วนท้ายแบบฟอร์มล็อคอิน
เครื่องรางมาตราฐานทั้งหมด
ส่วนหัวของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย

ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,185 ผู้ชมทั้งหมด :41,769,408 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :7,912

ส่วนท้ายของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย
ส่วนหัวของกรอบแบนเนอร์
ปฏิทินงานประกวด
ส่วนท้ายของกรอบแบนเนอร์
ส่วนหัวของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนท้ายของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนหัวของกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด
ชื่อเครื่องราง :
พญาเต่าเลือน ยันต์นะหน้าทอง หลวงปู่ศุข (สุดยอดความหายาก องค์ที่2 ในรอบสิบปี ขอโชว์!!!)
ราคา :
ขายแล้ว
รายละเอียด :

๙๙๙ พญาเต่าเลือน ยันต์นะหน้าทอง หลวงปู่ศุข (สุดยอดความหายาก องค์ที่2 ในรอบสิบปี ขอโชว์!!!) ขนาดเล็กน่ารัก สภาพสวย เนื้อหาอย่างมันส์ ด้านหลังยังเห็นรอยจารต้องส่องดูจะเห็นเนื่องจากคราบไขตะกั่วปกคลุมอยู่ครับ

พร้อมตลับทองปิดหลังแกะยันต์นะหน้าทอง อย่างสวยหรู สั่งทำอยู่ครับ 

 

<<< มีเรื่องเล่ากันมาว่า หลวงปู่ศุข  วัดปากคลองมะขามเต่า  ท่านก็เคยสร้างเต่าถวายสมเด็จเตี่ย  (พลเรือเอก  พระเจ้าบรมวงศ์เธอ  กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์) แต่ดูจากเนื้อหาของตะกั่วนมคราบไขขาว และขนาดแล้วมีความเหมือนกันมากกับพระปิดตากรมหลวงเนื้อตะกั่วมากครับ อันนี้เป็นเพียงข้อสันนิษฐานจากข้อมูลเปรียบเทียบเท่านั้นนะขอรับ >>>

 

 เครื่องรางของขลัง  ที่เรียกกันว่า  “พญาเต่าเลือน”  แห่งโชคลาภ  ดังนั้นคนไทยจึงนิยมนับถือสัตว์หลายชนิด ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์สมัยเมื่อเป็นพระโพธิสัตว์เสวยชาติต่าง ๆ เช่น  ช้าง  (พญาฉัททันต์)  นกคุ่ม (ลูกนกคุ่ม) นกยูง  (พญานกยูงทอง)  เต่าหรือพญาเต่าเลือนอันกลายมาเป็นเครื่องรางชนิดหนึ่งของคนไทย  แม้กระทั่งคนจีนก็ยังถือว่าเต่าเป็นสัตว์นำโชคลาภและสัตว์ที่มีอายุยืนยาวจะไม่นิยมกินเป็นอาหารเพราะถือว่าเป็นการบั่นทอนอายุของตนเอง  เต่านี่เแหละครับยังถูกนำมาเป็นหมอดู เรียกกันว่า “หมอดูเต่าทอง”  

 

         แต่สำหรับคนไทยนั้นเชื่อกันว่าเต่าเลือน  คือ  พระโพธิสัตว์ผู้ช่วยมนุษย์ให้รอดจากอันตราย  ซึ่งมีปรากฎอยู่ในพระไตรปิฎกตอนหนึ่งว่า  “ครั้งนั้นสมเด็จพระทศพลเสวยพระชาติเป็นพญาเต่า  มีร่ายกายอันใหญ่โตกินแต่ใบไม้และพลาหารต่าง ๆ บนยอดเขาบนเกาะร้างกลางทะเลและร่างกายของพระองค์ใหญ่เท่ากับเรือนหลังใหญ่ ๆ เรียกกันว่า เต่าเรือน  ท่านเสวยสุขอยู่จนกระทั่งวันหนึ่งมีสำเภาของพ่อค้ามาอับปางลงที่หน้าเกาะ  ส่วนลูกเรือและพ่อค้ารอดชีวิต จากความตายในทะเลได้แต่ก็ต้องมาผจญกับความอดยาก  เพราะบนเกาะไม่มีอาหารการกินแม้แต่สัตว์ใด ๆ ก็ไม่มียกเว้นพญาเต่าเรือน  จึงได้แต่นอนรอคอยความตาย  บ้างก็ร่ำ ๆ จะเข้ากินกันเป็นอาหาร

 

         ดังนั้นพระโพธิสัตว์เจ้าเห็นพ่อค้าและลูกเรือทั้งหลายจะพากันมาอดตายกันหมดก็เกิดความสลดใจและเห็นว่าตัวเราก็มีเนื้อมาก  อีกทั้งอายุก็มากแล้วหากต้องตายไปตามอายุร่างกายก็จะเน่าเปื่อยหาประโยชน์ไม่ได้  ซึ่งชีวิตนั้นก็เกิดแก่เจ็บตายก็เลยอธิฐานเอาร่างกายตนเป็นทานจึงคลานมาที่หน้าผาแล้วทิ้งตัวลงไปทำให้กระดองกระแทกกับแง่หินแตกกระจาย  เนื้อก็ไหลออกมากองอยู่ที่พื้นเบื้องล่าง  และทำให้พ่อค้ากับลูกเรือทั้งหลายได้อาศัยเนื้อเต่ากินเป็นอาหาร จึงรอดตาย  จนกระทั่งมีเรือผ่านมารับไปและจากการกระทำของพระโพธิสัตว์ในการอุทิศร่างโดยการเลื่อนลงมาจากหน้าผานั้นเลยเรียกกันว่า  “พญาเต่าเลือน”

 

        คำว่า  “เต่าเรือน”  จึงเป็นนามของพระโพธิสัตวืที่มีรูปร่างใหญ่และคำว่า  “เต่าเลื่อน”  จึงเป็นนามของพระโพธิสัตว์ขณะเลื่อนตัวเองลงมาจนกระดองแตกถึงแก่ความตายเพื่อเอาเนื้อเป็นทาน  มิใช่เต่าเลือนที่เลอะเลือนจนมองไม่เห็นชัดเหมือนกับที่เขามั่วกันส่งเดชอยู่ในเวลานี้ ส่วนเต่าเลือนนั้นเป็นชื่อยันต์ที่ผูกขึ้นเป็นรูปเต่าเพื่อใช้ในการทำการสู้คดีความที่เป็นอยู่ให้หายไป  มิใช่นามของพระโพธิสัตว์ก็หาไม่ และการทำยันต์เต่าเลือนนั้น  เขาจะใช้การลบผงยันต์เต่าเรือนโดยซักยันต์คำว่า  “นาสังสิโม”  อันเป็นหัวใจเต่าเรือนแล้วลบเอาผงมาใช้ในการปั้นรูปเต่าแล้วเอาชื่อของคู่คดีที่มาให้ทำเขียนใส่กระดาษมายัดเข้าไปในอกเต่าแล้วปิดทับให้สนิท  เมื่อปลุกเสกแล้วเอาไปฝังดินเอาอิฐทับ  และกล่าวกันว่าคดีความนั้นฝ่ายโจทย์จะให้การขัดแย้งกันเอง จนเลอะเลือนจับต้นชนปลายไม่ถูกกับแพ้คดีไปในที่สุด  การทำต้องทำให้กับผู้ที่ไม่มีความผิดแต่กลับถูกใส่ร้ายป้ายความผิดเท่านั้น  หากทำให้กับฝ่ายผู้ผิดเป็นการละเมิดครูผู้ที่ทำจะวิบัติต่าง ๆ จึงไม่ค่อยมีใครกล้ากระทำให้ผู้ผิดยกเว้นจำพวกที่เป็นแก่ได้หรือมีความโลภซึ่งผลจากการกระทำก็ลงเอยด้วยคือ  ความพินาศนั่นเอง 

 

<<< ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก http://www.itti-patihan.com/ มาด้วย ณ ที่นี้นะขอรับ >>> ๙๙๙

ชื่อร้าน :
เบอร์โทรศัพท์ :
085-8798569
จำนวนผู้ชมขณะนี้ :
1
ส่วนท้ายกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด