ส่วนหัวแบบฟอร์มล็อคอิน

ส่วนท้ายแบบฟอร์มล็อคอิน
เครื่องรางมาตราฐานทั้งหมด
ส่วนหัวของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย

ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,183 ผู้ชมทั้งหมด :41,724,939 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :5,080

ส่วนท้ายของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย
ส่วนหัวของกรอบแบนเนอร์
ปฏิทินงานประกวด
ส่วนท้ายของกรอบแบนเนอร์
ส่วนหัวของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนท้ายของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนหัวของกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด
ชื่อเครื่องราง :
TOP5 เบญจภาคีเครื่องราง =>>หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน นนทบุรี (หน้ากระบี่)
ราคา :
มาใหม่
รายละเอียด :

@@@ TOP5 เบญจภาคีเครื่องราง =>>หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน นนทบุรี (หน้ากระบี่) @@@

<<< ขนาดหนึ่งองคุลี ข้อนิ้วก้อย 1.2*2.5 cm แบบเก๋าๆ อ้วนล่ำ มันส์ลึกปึ๊ก!!! >>>

(ไม่สวยจัด..,แต่ชัดเจน!!! สวยๆหลักล้าน)

==============================

ในแวดวงนักสะสมเครื่องรางของขลังถ้าเป็นเรื่อง “หนุมาน”ของพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าต้องยกให้ หนุมาน "ขุนกระบี่วานร ฤทธิเกริกไกร หนึ่งในสยาม" ของหลวงพ่อสุ่น แห่งวัดศาลากุน เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี

สำหรับการสร้างหนุมานหลวงพ่อสุ่นนั้นมีรายละเอียดตามนี้.... หลวงพ่อสุ่นท่านจะปลูกต้นรักและต้นพุดซ้อน ดูแลอย่างดีตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นสมภารด้วยการทำน้ำมนต์รดต้นไม้ทั้งสองเสมอมา เมื่อเป็นสมภารคลองวัด ท่านจึงดูฤกษ์ยามทำพิธีพลีและสังเวยก่อนจึงให้ลูกศิษย์ขุดรากไม้รักและพุดซ้อนตากจนแห้ง ให้ช่างมีฝีมือแกะเป็นรูปหนุมานทรงเครื่องสวยงาม จากนั้นท่านจะรวบรวมหนุมานทั้งหมดห่อด้วยผ้าขาวใส่บาตรเพื่อปลุกเสกในกุฏิ จนถึงวันเสาร์ซึ่งถือว่าเป็นวันแรง ท่านก็จะเข้าไปปลุกเสกในอุโบสถ จนครบถ้วนกระบวนการ จึงเก็บไว้แจกจ่ายบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและผู้ถวายปัจจัยในการบูรณปฏิสังขรณ์วัด การปลุกเสกหนุมานของหลวงพ่อสุ่นมีความเเปลกเเละพิศดารเป็นอย่างมาก คือก่อนที่ท่านจะทำการปลุกเสกหนุมาน

ในตอนเช้าท่านจะให้ลูกศิษย์ไปตัดต้นไม้ที่มีหนามมาไว้มากๆ ส่วนมากจะเป็นต้นไผ่ ต้นพุทรา ต้นมะขามเทศ ช่วงค่ำท่านก็จะทำวัตรกับพระลูกวัดตามปกติ หลังจากทำวัตรเสร็จเเล้ว ท่านก็จะเข้าไปในกุฎิประมาณหนึ่งชั่วโมงท่านก็จะออกมา พร้อมกับอุ้มบาตรออกมาด้วย เเล้วเรียกลูกศิษย์ให้อุ้มบาตรเข้าไปในโบสถ์ ท่านกำชับบอกลูกศิษย์ว่าห้ามเปิดบาตรเด็ดขาด ท่านพูดลอยๆว่า...ขี้เกียจจับ เเล้วท่านก็จะนั่งทำวัตรอีกครั้ง เมื่อท่านทำวัตรเสร็จเเล้วท่านก็นั่งหันหลังให้พระประธานเเล้วเอาบาตรตั้งไว้ด้านหน้าจากนั้นก็จะให้ลูกศิษย์นำกิ่งไม้ที่มีหนามที่เตรียมไว้ สุมไปที่ตัวท่านให้เต็มจนหาทางเข้าออกไม่ได้ จากนั้นท่านก็จะให้ลูกศิษย์ออกจากโบสถ์เเล้วลั่นกลอนประตูโบสถ์ปิดไว้ห้ามผู้ใดเข้าออก โดยท่านจะปลุกเสกด้วย อุคหนิมิต คือ การนิมิตที่จำติดตาลืมตาก็เห็น เสกจนหนุมานกระโดดออกจากบาตรได้ขึ้นมาดับเทียนชัยที่จุดเอาไว้ที่ขอบปากบาตร เพราะหนุมานนั้นได้ถูกกำกับด้วย หัวใจหนุมาน ไว้ทุกตัว ครั้นเวลาประมาณตี 4 ท่านก็จะเรียกลูกศิษย์ให้เข้าไปในโบสถ์ เพื่อเก็บหนุมานที่ติดอยู่กับกิ่งไม้เเละหนามที่สุมตัวท่าน ตัวไหนที่หล่นอยู่กับพื้นให้เเยกไว้ต่างหาก ท่านว่ายังใช้ไม่ได้เพราะปลุกไม่ขึ้น สิ่งที่คาใจในหมู่ลูกศิษย์คือหนุมานขึ้นไปติดกับกิ่งไม้เเละหนาม ได้อย่างไร เเละที่สำคัญท่านออกมาจากกองกิ่งไม้เเละหนามที่สุมตัวท่านได้อย่างไร โดยทุกอย่างอยู่ในสภาพเดิมทั้งสิ้น

เมื่อปลุกเสก หนุมาน สำเร็จ หลวงพ่อสุ่น ท่านก็จะเก็บไว้แจกให้กับคนทั่วไปโดยไม่เลือกที่รักที่ชังและไม่ได้ตั้งราคาว่าจะเท่าไร ทุกคนที่ได้ หนุมาน ของท่านกลับไปบูชาพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเครื่องรางที่ดีในด้านเมตตาค้าขายและแคล้วคลาด // หนุมานที่แกะจากไม้รากพุดซ้อนและงาช้างขนาดเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน ไม่มีรูปแบบตายตัวแน่นอน ช่างแกะชื่อ นายมี แกะเป็นรูปหนุมานทรงเครื่องและไม่ทรงเครื่อง ตัวไม่ใหญ่โตมากนัก กว้างประมาณครึ่งนิ้ว สูงประมาณ ๑ นิ้วเศษ โดยมีการสร้างครั้งใหญ่ๆ อยู่ ๒ ครั้ง คือ

ครั้งแรก....สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๘ จำนวนการสร้างไม่มากนัก น่าจะไม่เกิน ๑๐๐ ตัว แกะจากไม้รากพุดซ้อน เป็นหนุมานไม่ทรงเครื่อง ทำแจกฟรีในงานบุญต่างๆ ของวัดโดยไม่มีการจำหน่าย

ครั้งที่สอง....สร้างปลาย พ.ศ. ๒๔๗๐-พ.ศ. ๒๔๗๑ โดยนำออกจ่ายแจกในงานทอดกฐินของวัดศาลากุน ใน พ.ศ.๒๔๗๒ หนุมานที่ทำในคราวนั้น มีทั้งแบบทรงเครื่องหน้าโขน และหนุมานหน้ากระบี่ไม่ทรงเครื่อง แกะจากไม้รากพุดซ้อน และงาช้าง จำนวนการสร้างประมาณ ๒๐๐ ตัว ญาติโยมทางกรุงเทพฯ ได้รับแจกไปจำนวนมาก เพราะเป็นเจ้าภาพในบุญทอดกฐินปีนั้น ลักษณะการแกะ แกะเป็นรูปหนุมานนั่งยองๆ จับเข่า อ้าปากเห็นลิ้นกับฟัน มีทั้งแบบทรงเครื่องหน้าโขน และหน้ากระบี่ไม่ทรงเครื่อง ทั้งนี้แบบทรงเครื่องดูสวยงามและอลังการมากกว่า แต่ต้องพิจารณาให้ดี เพราะหนุมานของหลวงพ่อสุ่น มีของทำเลียนแบบจำนวนมาก ต้องพิจารณาจากความเก่าของงาและไม้ที่นำมาแกะ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ ชัดเจน คือหนุมานหลวงพ่อสุ่น ถ้าเป็นเนื้อไม้จะมีรอยร้าวและเนื้อไม้จะแห้ง นอกเหนือจากหนุมานแกะที่ทำจากต้นรักและต้นพุดซ้อนแล้ว หลวงพ่อสุ่นยังได้แกะหนุมานจากงาช้างด้วย แต่สร้างในรุ่นหลัง ไม่ค่อยได้พบเห็นกันนัก และสนนราคาค่อนข้างสูงมาก

อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อสุ่นไม่มีประวัติการเรียนอาคมจากพระเกจิอาจารย์ท่านใดไม่มีประวัติแน่ชัดแต่ก็มีการสันนิษฐานว่า อาจจะเรียนมาจาก หลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูง เพราะหลวงพ่อสุ่นกับหลวงพ่อกลิ่นเคยสนทนากันว่า "เมื่อร่ำเรียนวิชามาแล้ว ก็ต้องทำของแจกชาวบ้านบ้าง" โดยการสร้างหนุมานทั้ง ๒ ครั้ง หลวงพ่อสุ่นจะปลุกเสกเดี่ยวในอุโบสถ หลวงพ่อสุ่น เรียนวิชาปลุกเสกหนุมาน จากพระนาคทัศน์

คาถากำกับหนุมานให้ว่า "โอม หะนุมานะ นะอย่าทำนะ นะมังเพลิง โมมังปากกระบอก ยะมิให้ออก อุดธัง โธอุด ธังอัด อะสังวิสุโรปุสะภุพะ มะอะอุ โอมยะพุทธา ทะโยสตรี สตรี นิสังโห"

คาถาปลุกหนุมาน ผู้เคยใช้หนุมานหลวงพ่อสุ่น ต่างมีความเชื่อว่ามีพุทธคุณเด่นทางแคล้วคลาด คงกระพัน และมหาอำนาจ ดังมีตัวอย่างเริ่มแรกในยุคสมัยการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.๒๔๗๕ โดย คณะราษฎร ซึ่งนำโดย พ.อ.พระยาพหลพลหยุหเสนา กับคณะทหารและพลเรือนได้ไปหาหลวงพ่อสุ่นและท่านเมตตาให้หนุมานหน้าโขนมาตัวหนึ่งโดยให้พกติดตัว พร้อมกับบอกในลักษณะที่ว่า ผ่านไปสักพักเรื่องเลวร้ายก็ผ่านไปด้วยดี ในที่สุดก็เป็นอย่างที่หลวงพ่อสุ่นพูด ภายหลัง พ.อ.พระยาพหลพลหยุหเสนา ก็นำเรือที่เป็นพาหนะส่วนตัวถวายหลวงพ่อสุ่น ซึ่งปัจจุบันนี้ยังปรากฏว่ามีอยู่ จากนั้นพุทธคุณของหนุมานหลวงพ่อสุ่นก็เป็นที่ร่ำรือว่ามีพุทธคุณเด่นทางคง กระพันชาตรี แคล้วคลาด

นอกจากนี้หนุมานหลวงพ่อสุ่นยังเป็นเครื่องรางที่มีอานุภาพเรื่องเมตตาสูงเยี่ยมเช่นกัน ในสมัยก่อนพวกลิเกต่าง ๆ ซึ่งในสมัยนั้นลิเกทุกคนมีกันไว้ทั้งนั้น เรียกว่าถ้าใครมีหนุมานของท่าน ไม่ต้องกลัวอด ไปเล่นที่ใหนบรรดาแม่ยก พ่อยก ถึงกับต้องติดตามกันเกลียว ในด้านคงกระพันไม่ต้องพูดถึง ทุกคนที่มีเคยประสบเหตุการณ์ต่าง ๆ มาแล้วแม้แต่ระเบิดยังไม่ระคายผิว จนบรรดานักเลงพระต่างตั้งสโลแกนกันว่า ...“ ถ้าเสือก็ต้องหลวงพ่อปาน ถ้าหนุมานก็ต้องหลวงพ่อสุ่น” ๙๙๙

ชื่อร้าน :
เบอร์โทรศัพท์ :
085-8798569
จำนวนผู้ชมขณะนี้ :
1
ส่วนท้ายกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด