๙๙๙ ที่มาของคำว่า.., "ตำนานยันต์หนังควายตายพรายแห่งวัดวังมุย" มาจากตะกรุดดอกนี้ครับ ๙๙๙ 

"".. ตะกรุดหนังควายตายพรายพอกครั่งลงรักชาดทองเก่า ครูบาชุ่ม วัดวังมุย จ.ลำพูน ..""

ตะกรุดหนังควายพอกครั่งครูบาชุ่มดอกพิเศษ ลงรักชาดทองเก่า "หายากระดับในตำนาน" ตำนานของการสร้างตะกรุดหนังควายพอกครั่งดอกพิเศษแบบลงรักชาดทองนั้น  "จำนวนสร้างเพียง 9 ดอกเท่านั้น" ดอกนี้ส่องหัวท้ายเห็นหนังชัดเจน มีเชือกแดงที่ขาดเก่ามัดเดิมยังอยู่ครับ เลี่ยมทองลงยาแบบ VIP สวยงามพร้อมใช้ครับ และดอกพิเศษนี้ท่านทำให้เป็นกรณีพิเศษจริงๆ ในวงการเท่าที่พบเห็นแบบตัวจริงยังพบ เพียง 3 ดอกซึ่งรวมดอกนี้แล้ว ส่วนอีก 6 ดอก ที่เหลือยังคงเป็นตำนาน ที่ต้องร่วมค้นหากันต่อไป 

("ตะกรุดดอกนี้ผมฟิตมาหกหลัก" ถ้าไม่ได้หกหลักก็คงไม่ได้ครอบครองแน่นอน เพราะเจ้าของห่วงและใช้ติดตัวมานาน ต้องฟิตกันหน่อยถึงจะได้คำว่าตำนานมาครับ) 

ซึ่งท่านได้รับการถ่ายทอดมาจาก "พระมหาเมธังกร วัดน้ำคือ จ.แพร่" ตำราการสร้างมีความยุ่งยากซับซ้อนเป็นอย่างมาก หนังที่ใช้ต้องเป็นหนังควายเผือก และต้องเป็นของลูกควายเผือกที่ตายทั้งกลมอยู่ในท้องแม่เพื่อหวังผลทางด้านมหาอุด ตะกรุดของท่านจึงได้รับยกย่องว่า "เป็นสุดยอดตะกรุดอันดับหนึ่งของแดนล้านนาและจัดอยู่ในห้าเครื่องรางเบญจภาคีของล้านนา" ด้วยอานุภาพหนังควายอาถรรพ์พอกครั่งและตำรับวิชาของท่านครูบาชุ่ม พุทธคุณวิเศษทางด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรีดีนักแล และเป็นเมตตามหานิยมสูง (เพราะแม่ค้าพ่อค้าจังหวัดลำพูนก็ใช้พกติดตัวทำมาค้าขายด้วย บอกว่า "ก้าแม่นก้าหมาด") มีประสบการณ์ตรงมาแล้วมากมาย ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือกันมากในด้านคงกระพัน มหาอุตย์ จนได้รับฉายา... "ตะกรุดมหาอุตย์หยุดกระสุน!"

ตะกรุดครูบาชุ่มที่ลงทองนั้นจะมี 3 แบบ คือ..,

1. ลงด้วยทองแท้มัดเชือกแดงนั้นจะแจกกรรมการที่มาช่วยงานที่วัดวังมุยปี 2517

2. ลงทองบรอนซ์เชือกที่ขาว หรือ เหลืองนั้น แจกศิษย์ท่าซุง ปี18

3. แบบที่พิเศษสุดและหายากสุด คือ แบบลงรักชาดทอง อย่างที่ได้นำมาให้ชมนี้ครับ

:: ขอบคุณข้อมูลจาก พี่เชน เชียงใหม่ ณ ที่นี้ด้วยครับ ::