ส่วนหัวแบบฟอร์มล็อคอิน

ส่วนท้ายแบบฟอร์มล็อคอิน
เครื่องรางมาตราฐานทั้งหมด
ส่วนหัวของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย

ร้านค้าทั้งหมด :253 สินค้าทั้งหมด :11,188 ผู้ชมทั้งหมด :41,555,699 ผู้ชมวันนี้ทั้งหมด :2,063

ส่วนท้ายของกรอบสถิติเว็บไซต์เครื่องรางไทย
ส่วนหัวของกรอบแบนเนอร์
ปฏิทินงานประกวด
ส่วนท้ายของกรอบแบนเนอร์
ส่วนหัวของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนท้ายของกรอบร้านค้าแนะนำ
ส่วนหัวของกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด
ชื่อเครื่องราง :
อมตะวาจาเถราจารย์ หลวงปู่ภู วัดอินทร์ (ไม่มีใครทำได้อย่างกู นามไม้ครู อยู่วัดอินทร์)
ราคา :
โชว์เครื่องราง
รายละเอียด :

อมตะวาจาเถราจารย์ หลวงปู่ภู วัดอินทร์

"ไม่มีใครทำได้อย่างกู นามไม้ครู อยู่วัดอินทร์

 

         ไม้ครู เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่งประเภทของตะกรุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ ผู้นิยมสะสม เครื่องรางของขลัง ไม้ครูที่มีชื่อเสียงโด่งดัง มีอยู่ 3 สำนัก คือ ไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทร์ กทม. ,  ไม้ครู หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก นครปฐม ,  ไม้ครู หลวงปู่จันทร์ วัดวัดนางหนู ลพบุรี ตามลำดับ แต่ที่นิยมมากที่สุด เป็นยอดไม้ครูอันดับ๑ ของเมืองไทย ก็คือ "ไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทร์ " ซึ่งจัดอยู่ในชุดเครื่องรางมงคล ๙ สะท้านแผ่นดิน ในอันดับที่3  ดังเครื่องราง คำกลอน มงคล๙ ดังนี้

หมากดี ที่วัดหนัง  ถ้าเบี้ยขลัง วัดนายโรง

ไม้ครู คู่วัดอินทร์ ส่วนมีดบิน วัดหนองโพ

พิสมร วัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้าย วัดโตนดหลวง

ราหู คู่วัดศรีษะ แหวนอักขระ วัดหนองบัว

ลูกแร่ ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน

ก้าสิ่งล้วนป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา

ติดกายยามยาตรา ภัยมิกล้ามาแผ้วพานฯ

อมตะวาจาเถราจารย์ หลวงปู่ภู..,"ไม่มีใครทำได้อย่างกู นามไม้ครู อยู่วัดอินทร์"  

ไม้ครู ลป.ปู่ภู วัดอินทร์ กทม. (ตามตำราว่าไว้ประจุด้านเดียวเรียกไม้พ่อครู ประจุสองด้านเรียกนิ้วเพชรพระอิศวร..."ชี้ต้นตาย ชี้ปลายเป็น")  ล่าสุดมีประสบการณ์ทางภาคใต้โดนระเบิดไม่เป็นไร มีไม้ครูหลวงปู่ภูครับ ไม้พ่อครูนับเครื่องรางที่สร้างยากที่สุด ผู้ที่สร้างได้จะต้องเป็นผู้ที่มีบุญบารมีเท่านั้น // หลวงปู่ภูท่านเคยกล่าวให้ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดฟังว่า =>>

<<< ไม่มีใครทำได้อย่างกู นั่นแสดงว่า ไม้ครู สร้างยากมากๆ วิชานี้คนที่มีบุญวาสนาเท่านั้นถึงจะเรียนสำเร็จได้ >>>

วัสดุที่ใช้สร้างก็สุดแสนที่จะหายาก เพราะท่านต้องเดินธุดงค์เข้าไปในป่าลึก เพื่อจะไปหาไม้ไผ่และจะต้องเป็นไม้ไผ่สีสุก ที่ถูกฟ้าผ่าล้มปลายชี้ไปทางทิศตะวันออกเท่านั้นถึงจะใช้ได้ ในตำราระบุไว้ว่า ไม้ไผ่ลำนี้เปรียบประดุจไม้ยันพระวรกายของท้าวเวสสุวรรณ และภายในเจ็ดวันท่านเฝ้ารอจนก่วาโขลงช้างจะผ่านมาพบ แล้วกระโดดข้ามก่อไผ่นั้นทั้งโขลง ก่อนที่ท่านจะตัดไม้ไผ่ดังกล่าว ท่านจะต้องทำพิธีพลีกรรมก่อน // การพลีกรรม คือการขอของจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าป่า เจ้าเขา รุกขเทวดา เพื่อเพิ่มความเข้มขลังให้มากยิ่งขึ้น // เมือท่านได้ไม้ไผ่มาแล้ว ท่านจะนำมาลงอักขระ แล้วใช้เป็นไม้เท้ายันกายในยามที่ท่านเดินธุดงค์ ขณะที่ท่านเดินธุดงค์ เมื่อท่านได้พบศพที่ตายวันเสาร์ เผาวันอังคาร ท่านก็จะใช้ไม้เท้านั้นจิ้มศพจนกว่าจะครบเจ็ดศพ // ตลอดระยะเวลาในการเดินธุดงค์ของท่านนานถึง 30 ปี จากนั้นท่านก็จะนำไม้เท้าอันนี้มาผ่าให้เป็นแผ่นเล็กๆ เรียกว่า จักตอก เตรียมใว้สำหรับลงพระนามที่ได้รับจากเบื้องบน // ถ้าลูกศิษย์คนใดอยากได้ไม้ครู จะต้องขอท่านก่อนวันเสาร์ และถ้าท่านตกลงทำให้ ผู้นั้นจะต้องจัดเครื่องไหว้ ดังนี้ =>> มีหัวหมู บายศรี มะพร้าวอ่อน และอื่นๆตามที่ท่านจะสั่ง ที่ขาดไม่ได้คือไม้ไผ่ที่ตัดเหลือข้อไว้หนึ่งข้อ หรือไม้ที่เจาะรู จะไม้ผยุง ไม้ขนุน และอีกหลายอย่าง // เมื่อได้ของครบแล้ว ท่านก็จะทำพิธีลงพระนามในไม้ตอกที่ท่านเตรียมไว้ การทำพิธีลงพระนาม หลวงปู่ท่านจะมองขึ้นไปบนท้องฟ้าครั้งละนานๆ บางครั้งก็ไม่นาน // เคยมีลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดถามท่านว่า หลวงปู่มองขึ้นไปบนท้องฟ้าทำไม ท่านตอบว่า ท่านรอพระนามจากเบื้องบน // เมื่อใด้พระนามจากเบื้องบนมาแล้ว ท่านก็จะทำการบรรจุไม้ลงพระนาม เข้าไปในไม้ที่เจาะเตรียมไว้อุดด้วยไม้และลงอักขระทับอีกที เป็นอันเสร็จพิธี นับว่าสร้างยากจริงๆครับ และจัดตอกนำมาลงอักขระบรรจุเข้าไปที่เจาะรูไว้ศิษย์ใกล้ชิดได้กล่าวว่า บางเสาร์จะมีหัวหมูเครื่องบายศรีถึง ๙ หัวด้วยกัน แสดงว่าวันนั้นท่านทำถึง ๙ อัน การบรรจุไม้เท้า ถ้าข้างเดียว เรียกว่าไม้เท้าพ่อครู หรือสองข้างท่านเรียก นิ้วชี้พระอิศวร หรือชี้ต้นตายชี้ปลายเป็น

เมื่อท่านกระทำให้ผู้ใดก็ตาม ท่านจะกำชับหนักหนา ห้ามเอาไปตีใครเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ผู้ที่ถูกตีถึงกับเสียจริต (บ้า) รักษาไม่หาย นอกจากกระโดนกลั่นแกล้งถึงกับน้ำตาเป็นสายเลือดหมายถึงสุดที่จะอดกลั้นได้อิทธิฤทธิ์ของไม้เท้าพ่อครู

ใช้ป้องกันตัวเมื่อยาคับขัน ป้องกันโจรผู้ร้ายคุณไสย และภูติผีปีศาจ ไม่กล้ากล้ำกลายมารบกวน ซึ่งมีผู้ประสบมามากมาย

คาถาปลุก =>> "โอมปลุกปลุกลุกลุกกูจะปลุกพ่อครู นิ้วเพชรพระอิศวร กระบองยันกายท้าวเวสสุวรรณ ไม้โขลงช้างข้าม ปีศาจพ่อครู โอมปลุกมหากูจะปลุกไม้เท้าพ่อครู หลวงปู่ภูประสิทธิ์ให้กูสวาหะ"

"ตะกรุดไม้ครู" ที่ทำสำเร็จตามกรรมวิธีดังกล่าวถือว่ามีคุณวิเศษสามารถคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ ป้องกันอาถรรพ์เวท คุณไสย เสนียดจัญไรทุกประการ ไม้ครูนี้เป็นของวิเศษ ถ้าเป็นไม้ตะพดท่านห้ามไม่ให้เอาไปตีใครส่งเดช เพราะคนผู้นั้นจะเสียสติวิปลาสไป จะเป็นบาปกรรมต่อผู้กระทำ และผู้ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้

       ประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับนิ้วเพชรพระอิศวร มีดังนี้ครับ =>> "นนทุก" เป็นยักษ์ผู้มีหน้าที่ล้างบาท เทวบริวารที่มาเฝ้าพระอิศวร ณ เขาไกรลาส ถูกเทวดาล้อเลียน ลูบศีรษะ เล่นจน ผมร่วงโล้นเกิดความแค้น // จึงทูลขอพรจากพระอิศวร ให้มีนิ้วเพชรชี้ผู้ใดผู้นั้นก็ ดับชีพ นนทุกกำเริบฤทธิ์ใช้นิ้วเพชรประหารเทวดาจนแทบสิ้นสวรรค์ // ร้อนถึงพระนารายณ์ต้องแปลงองค์เป็นนางอัปสรมาล่อให้ร่ายรำตาม // นนทุกเผลอหันนิ้วเพชรเข้าชี้ตนเอง ก่อนสิ้นชีวิตได้รู้ว่านางอัปสรคือพระ นารายณ์ // จึงตัดพ้อว่าเอาเปรียบมาหลอกด้วยอุบาย พระนารายณ์จึงทรงท้า ต่อให้นนทุกเกิดเป็นยักษ์สิบเศียร ยี่สิบกร ส่วนพระองค์เองเป็นมนุษย์สองมือ นนทุกจึงจุติไปเกิดเป็นทศกันฐ์ ณ กรุงลงกา องค์นารายณ์เสด็จอวตารมาเป็น พระรามแห่งกรุงอโยธยา

และข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือกฏแห่งกรรมหลวงพ่อจรัญ เล่มที่16 ที่เกี่ยวข้องมีดังนี้ =>> พระอินทร์ให้นิ้วเพชรแก่ นนทุก เพื่อเป็นอำนาจวาสนาในชาติต่อไป แต่เจ้านนทุก ไม่ได้คิดอย่างพระอินทร์ คิดแต่จะฆ่าเทวดาอย่างเดียว // พระอินทร์จึงส่งพระนารายณ์มาปราบ แต่พระนารายณ์ก็เกรงกลัว นิ้วเพชร เพราะเป็นพรของพระอินทร์ // พระนารายณ์ก็มาคิดพิจารณาดูว่า ถ้าจะไปต่อกรกับนนทุก ก็จะสู้นนทุกไม่ได้ ถึงจะมีฤทธิ์ มีสี่กร ก็ต้องแพ้ฤทธิ์ของนนทุก ที่พระอินทร์ให้พรมา

คำว่า "พร" นี้ เมื่อให้แล้ว จะถอนไม่ได้มันเป็นบาป พ่อแม่ที่ให้พรลูกให้มีความรุ่งเรือง แล้ว พอโมโหจะถอนพรก็จะถอนไม่ได้ จะเป็นบาปอย่างร้ายแรง // แต่พ่อแม่สมัยนี้ทำได้ พอโมโหไม่พอใจ ก็แช่งลูก ขับไล่ลูกออกจากบ้านไป พ่อแม่สมัยนี้ทำได้ // แต่พระอินทร์ท่านทำไม่ได้ ให้พรแล้วจะมาถอนไม่ได้ เพราะฉะนั้นกัมมัฏฐาน ก็สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้อีกอันหนึ่ง เราจะได้รู้ว่าเราได้รับพรมาจากชาติไหนบ้าง พระอินทร์ท่านจึงเสียใจคิดว่า เขียนด้วยมือ แล้วจะลบด้วยเท้าไม่ได้ // ท่านจึงให้ผู้อื่นไปปราบ พระนารายณ์จึงแปลงเป็นผู้หญิง เพราะนนทุก ชอบผู้หญิง นนทุก มันเป็นยักษ์ เป็นอสูร จึง โทสะ โมหะ เต็มตัวมัน

(บทความจากสุทธิญาโณภิกขุ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี ; มีภาพประกอบ) ไม้ครูนี้เป็นของคู่กายที่ใช้ติดตัวอยู่ทุกวันครับ เคยนำไปให้หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาครท่านดู ท่านชอบมากและบอกว่าหายากท่านเองก็เคยมีอยู่ ๑ อัน มีโยมถวายท่านมา ท่านเคยเล่าว่า โยมได้นำไม้ครูนี้มารักษาท่าน เนื่องจากท่านมีของอยู่ในตัว ท่านบอกว่า พอนำไม้ครูมาจี้ที่ตัวมันก็ดูดติดตัวของท่าน ขนาดเอาคน ๒ คนดึงออก ยังต้องใช้แรงอย่างมากแต่ตอนนี้ก็มีโยมยืมของท่านไปแล้วก็ไม่นำกลับมาคืนอีกเลย ท่านก็แนะนำว่า ให้เก็บไว้ให้ดีการสร้างก็ยาก ให้นำติดตัวไว้แม้กระทั่งตอนนอน เว้นไว้เฉพาะตอนอาบน้ำก็พอ ท่านบอกว่าเครื่องรางอย่างอื่นไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ มีไม้ครูอันเดียวก็พอ แล้วท่านก็บอกอีกว่าเดี๋ยวเงินก็จะไหลเข้ามาอีกด้วย ของรักของหวงประจำตัวเลยครับ

 

SPECIALS THANK หนังสือรวมสุดยอดตะกรุดไทย (โดย ท่านพล.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์) , (ป๋าพยัพ คำพันธุ์)  , พี่เกร็ดเพชร (คุณสุวัฒน์) , เฮียสมโภช บางบัวทอง  , คุณเชน เชียงใหม่ , คุณโอ้ บางแค , Mr.Michael Lau , Mr.Bert Deen , Mr.JL Tan , ร้านธนานนท์ ฯลฯ

ชื่อร้าน :
เบอร์โทรศัพท์ :
085-8798569
จำนวนผู้ชมขณะนี้ :
1
ส่วนท้ายกรอบรายการเครื่องรางมาตราฐานล่าสุด